วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

พักนานเกินไป ระวังใจด้านชา ..


การลาจากๆคนๆหนึ่งหรือสถานที่แห่งหนึ่งนั้น ในขณะที่เป็นฉากแห่งความเศร้าสร้อย แต่ก็เป็นเสมือนการเริ่มต้นใหม่ไปในตัวด้วย อย่างเมื่อเร็วๆนี้ ก็มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ซึ่งพระเอกพูดกับนางเอกว่า ทันทีที่ตำนานบทหนึ่งจบลง ตำนานบทใหม่ก็เกิดขึ้นพร้อมๆกัน’ และการเริ่มต้นใหม่นั้น ถึงแม้จะไม่มีใครรู้และการันตีได้ว่า อะไรๆมันจะดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ แต่การมีความหวังและมองโลกในแง่ดีนั้น ก็จำเป็นต่อการมีชีวิตอยู่ต่อไปนะครับ ว่าแต่….เพื่อนๆทราบหรือไม่ว่า ระยะเวลาแห่งการ พักยกหัวใจ’ ที่เหมาะสมนั้น ควรจะเป็นกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี แล้วมันมีผลอย่างไร

1. จบแบบเปลี่ยนสถานภาพ  นั่นคือการเปลี่ยนจากการเป็นแฟน ไปเป็นเพื่อน เป็นพี่ หรือเป็นน้อง อะไรก็ตาม หากแต่ยังคงติดต่อสานสัมพันธ์กันอยู่ตามเดิม เหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีเพียงสถานะเท่านั้นที่เปลี่ยนไป การจบความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ คุณสามารถมีแฟนใหม่ได้ทันที และส่วนมากก็จะความสัมพันธ์ที่มีความสุขมากกว่าเดิมด้วย เพราะอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่า คุณเลิกรากับคนรักเดิมแบบสร้างสรรค์ และมีวุฒิภาวะ รวมถึงไม่ได้ผิดใจกันจนต้องหาแฟนคนใหม่ หรือทำอะไรเพื่อประชดคนเก่า แต่ถ้าจะให้ดี อย่าไปคบคนใหม่ที่เป็นเพื่อนกับคนเก่าเข้าล่ะ แบบนั้นมันเข้าตำราแอบตีท้ายครัว ซึ่งไม่ต่างอะไรกับพวกมั่วสำส่อนทางเพศหรือถูกความกำหนัดครอบงำเลย



2. จบแบบยืดเยื้อ  การจบความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ก็คือ แบบว่าอีกฝ่ายไม่ยอมตัดขาดจากคุณง่ายๆ ยังคงมีการโทรศัพท์คุย หรือหาเรื่องนัดเจอ เพื่อรักษาสถานภาพและดึงดันเอาไว้ก่อน เข้าตำราความอ่อนแอที่ยังมีอยู่ ทำให้กลัวที่จะเลิกแบบหักดิบกันไป ขอเวลาปรับตัวหรือทำใจก่อน ซึ่งอาจกินเวลานานเป็นปีเลยก็ได้ กว่าที่จะเลิกติดต่อกันไปอย่างเด็ดขาด หากคุณจบความสัมพันธ์เดิมที่จบลงในลักษณะนี้ คุณควรจะรอสัก 1 เดือนเป็นอย่างน้อย ก่อนที่จะเริ่มความสัมพันธ์ใหม่กับใคร เพราะการจบความสัมพันธ์ในลักษณะดังกล่าว ก็แสดงว่าถึงแม้คุณจะคิดไตร่ตรองดีแล้วที่จะเลิกกับอีกฝ่ายเอง เพื่อไปไขว่คว้าหาสิ่งที่ดีกว่าให้แก่ตัวเอง แต่คุณเป็นคนที่อ่อนไหวและใจอ่อนพอสมควร



3. จบแบบกะทันหัน  ควรรออย่างน้อย 3-6 เดือน ไม่ควรเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ทันที แต่จะ 3 หรือ 6 ก็ขึ้นอยู่กับบริบทหรือสถานการณ์ย่อยดังต่อไปนี้

     3.1 จบเพราะเสียชีวิตหรือพรากจากกัน  กรณีแบบนี้ รอแค่ 3 เดือนก็เพียงพอ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วคนเราจะมีความรู้สึกผิด หากว่าสูญเสียคนรักไป แล้วไปคบหาคนใหม่อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณควรรู้สึกผิด แน่นอนว่าคุณอาจจะรักแฟนของคุณจริงจัง หากแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ผู้ที่จากโลกนี้ไปแล้ว ก็ไม่รับรู้อะไรแล้ว หรือถึงจะรับรู้ หากถ้าเขารักคุณจริง เขาก็ต้องยินดีกับรักครั้งใหม่ของคุณแน่ๆ หากคุณมัวแต่รู้สึกผิดและรอนานเกินไป คุณอาจจะพลาดคนที่ดีและใช่สำหรับคุณ ที่บังเอิญผ่านเข้ามาในช่วงนี้ ไปอย่างน่าเสียดาย เพียงแต่คุณต้องเลือกคนใหม่ให้ดีๆล่ะ เพราะถึงคุณจะขจัดความรู้สึกผิดออกไปแล้ว ความรู้สึกที่อยากทำอะไรชดเชยให้คนรักเก่า ก็ยังอาจจะยังตกค้างหลงเหลืออยู่ จนอาจพยายามคว้าใครก็ได้มาเป็นตัวแทนเพื่อรับการชดเชยจากคุณ

    3.2 เลิกรากันไม่สวย  หากจบกันแบบนี้กับคนรักเก่า เรียกว่ากะทันหัน แถมยังเจ็บปวด บาดหมางต่อกัน วันสองวันคงไม่พอทำใจ เราขอแนะนำให้เว้นช่วงยาวไปเลย 6 เดือน ระหว่างนี้ให้ศึกษาและถามตนเองว่า ความรักที่เก่าจบลงไป มันให้บทเรียนอะไรแก่คุณบ้าง อะไรที่ทำให้คุณเจ็บปวดเมื่อเสียเขาหรือเธอไป อะไรที่คิดอีกทีว่า ก็ดีแล้วที่เลิกกัน’ เพื่อที่ครั้งต่อไป คุณจะได้สร้างมาตรฐานใหม่ ก่อนที่จะเริ่มมองหาและพบคนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม ลบข้อเสียของคนเก่าออกไป แล้วเพิ่มข้อดีเป็นทวีคูณ แถมทำให้คุณลืมคนเก่าไปโดยสิ้นเชิงแทบจำหน้าแทบไม่ได้เลยก็เป็นได้



          สรุปแล้ว จะสังเกตเห็นได้ว่า มันไม่สำคัญว่าคุณควรจะเลือกแฟนใหม่หรือเริ่มความสัมพันธ์รักครั้งใหม่ ด้วยมาตรฐานเดิมหรือมาตรฐานใหม่ เพราะมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์และบริบทที่แตกต่างกันไป ดังนั้นควรใส่ใจไปกับการสำรวจตนเองมากกว่าว่า ความสัมพันธ์เก่าของคุณที่จบลงไปก่อนหน้านั้น มันส่งผลกระทบต่อคุณอย่างไร หากมันไม่มีผลทางลบหรือกระแทกอารมณ์ใดๆ แนวโน้มที่คุณจะสามารถมีความสัมพันธ์ใหม่ที่แฮปปี้กว่าเดิม ก็มีมากขึ้น เพราะถือว่าคุณได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นแล้ว แต่หากความสัมพันธ์เดิมมันจบลงอย่างซึมเศร้า เหงาหงอย ปล่อยทิ้งให้คุณมีแต่อารมณ์ในทางลบ ก็ควรที่จะให้เวลาตัวเองยาวนานต่างกันไปตามที่ได้กล่าวมานั่นเอง
เครดิต .. แจ๊ค



credit : teenee.com